การดื้อยาต้านจุลชีพ: แนวทางสุขภาพหนึ่งเดียว

การดื้อยาต้านจุลชีพ (AMR) เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของมนุษย์ทั่วโลก และได้รับการยอมรับว่าเป็นภัยเงียบของโรคระบาด รายงานล่าสุดในปี 2019 เปิดเผยว่าการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการดื้อยาต้านจุลชีพ  มีจำนวนประมาณ 4.95 ล้านคนต่อปีทั่วโลก โดย 1.27 ล้านคน เป็นผู้เสียชีวิตจากการดื้อยาต้านจุลชีพโดยตรง นับตั้งแต่มีการค้นพบยาปฏิชีวนะเพนนิซิลิน ก็มีการพัฒนายาปฏิชีวนะหลายชนิดเพื่อนำมาใช้รักษาโรคติดเชื้อได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จเหล่านี้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงเนื่องจากการใช้ยาต้านจุลชีพมากเกินไปหรือใช้ไม่ถูกวิธี ซึ่งนำไปสู่การเกิดและการแพร่กระจายของแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะ แบคทีเรียเหล่านี้ ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น พวกมันแพร่กระจายสู่สิ่งแวดล้อมและสัตว์ที่ใกล้ชิดกับมนุษย์ รวมถึงสัตว์เลี้ยง ปศุสัตว์ และปลาที่เลี้ยงในฟาร์ม เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อสุขภาพของมนุษย์ที่เกิดขึ้นนี้ จึงจำเป็นต้องใช้ “แนวทางสุขภาพเดียว” แบบสหสาขาวิชาชีพในการแก้ปัญหา และเพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจของ CRI ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี งานวิจัยการดื้อยาต้านจุลชีพ จึงเป็นงานวิจัยหลักของห้องปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพ ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจขอบเขตและสาเหตุของการดื้อยาต้านจุลชีพ ได้ดียิ่งขึ้น ระดับความรุนแรง สาเหตุ และตัวขับเคลื่อนที่ทำให้เกิดการดื้อยา จะถูกตรวจสอบในสิ่งแวดล้อมและแหล่งอาหาร ทีมวิจัยของสถาบัน ร่วมกับนักวิจัยจากสหราชอาณาจักร (UK) นำโดย University of Bristol ได้รับทุน Global Challenge Research Fund จาก Medical Research Council (MRC) สหราชอาณาจักร เพื่อค้นหาตัวขับเคลื่อนที่ทำให้เกิดการดื้อยาในประเทศไทยตามแนวคิดเรื่องสุขภาพหนึ่งเดียว ความรู้ที่ได้รับจากโครงการวิจัยนี้จะสามารถระบุขอบเขตของเชื้อดื้อยา และตัวขับเคลื่อนในสิ่งแวดล้อมได้ เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับตัวขับเคลื่อนที่ทำให้เกิดการดื้อยาต้านจุลชีพในหมู่ประชาชนทั่วไปและยังส่งต่อให้กับผู้กำหนดนโยบายเพื่อจัดทำมาตรการเร่งในการแก้ปัญหาเชื้อดื้อยา นอกจากนี้ห้องปฏิบัติการยังได้ขยายการศึกษาเกี่ยวกับ AMR ไปยังภาคการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังถูกละเลยไปอย่างมาก ผลการวิจัยพบว่าตัวขับเคลื่อนที่ทำให้เกิดการดื้อยา มาจากยาปฏิชีวนะที่ตกค้างในน้ำเสีย ทางออกหนึ่งที่ชัดเจนคือการกำจัดยาปฏิชีวนะที่ตกค้างในระบบบำบัดน้ำเสีย นักวิจัยจากห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีชีวภาพกำลังทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านนาโนคอมโพสิทจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนานาโนคอมโพสิทที่สามารถกำจัดยาปฏิชีวนะและยาฆ่าแมลงที่ตกค้างออกจากน้ำเสีย นอกจากนี้ทีมวิจัยยังร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการนำเทคโนโลยีการกำจัดยาปฏิชีวนะนี้ไปใช้ในระบบบำบัดน้ำเสียในโรงงานผลิตยา โรงพยาบาล และชุมชนอื่นๆ เพื่อลดการปล่อยยาปฏิชีวนะสู่สิ่งแวดล้อมโดยรวม เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม

 

แท็ก

แชร์