พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ไปทรงปฏิบัติพระกรณียกิจ ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี วันที่ 5 มีนาคม 2565
![](/data/img/pr/2022/03/05/001.jpg)
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ ไปทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเกตุมาลาพระประธานประจำวิหาร และทรงเชิญอัฐิธาตุพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ในรัตนเจดีย์ขึ้นประดิษฐานบนบุษบกทองคำภายในเจดีย์ กับทรงเปิดโครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคลฯ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โอกาสนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ประธานคณะผู้ออกแบบโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ เฝ้ารับเสด็จ
![](/data/img/pr/2022/03/05/02.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/03.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/004.jpg)
ในการนี้ เสด็จไปยังวิหาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระประธานประจำวิหาร ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกแด่พระสงฆ์ ทรงสรงพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่ออัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพระเกตุมาลาพระประธานประจำวิหาร ซึ่งได้รับพระราชทานนามจาก สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีว่า “ พระพุทธวิสุทธิมงคลศาสดา เจ้าฟ้าจุฬาภรณนฤมิต” อันมีความหมายว่า “พระพุทธองค์ ผู้ทรงเป็นพระบรมศาสดา ทรงประกอบด้วยมงคลอันบริสุทธิ์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงสร้าง” ซึ่งมีพุทธลักษณะปางมารวิชัย เนื้อโลหะทองแดงบรอนซ์ลงรักปิดทองโบราณ ขนาดหน้าตักกว้าง 224 ซม. ความสูงจากองค์พระถึงพระเกตุ 329 ซม. น้ำหนัก 4,000 กิโลกรัม ยกฐาน 3 ชั้น ฐานพระกว้าง 308 ซม. สูง 179 ซม. ประดับอักษรพระนาม “จภ” ที่ผ้าทิพย์ ออกแบบโดย ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ภายในวิหารยังมีรูปหล่อพระอริยสงฆ์ ผู้เป็นบูรพาจารย์ของประเทศ ซึ่งประดิษฐานอยู่เบื้องหน้าพระประธานบนฐานชุกชีหินอ่อน ได้แก่ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
จากนั้น ทรงสรงอัฐิธาตุหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เพื่อเชิญไปประดิษฐานในรัตนเจดีย์ที่ประดับด้วยเพชรพลอยบนบุษบกทองคำภายในเจดีย์
![](/data/img/pr/2022/03/05/05.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/06.jpg)
โอกาสนี้ พระราชวชิรธรรมาจารย์ (สุธรรม สุธัมโม) เจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) และ พระราชภาวนาวชิรากร (อินทร์ถวาย สันตุสสโก) เจ้าอาวาสวัดอุดมมงคลวนาราม (วัดป่านาคำน้อย) อ.นายูง จ.อุดรธานี ถวายของที่ระลึก พร้อมกันนี้ พระราชภาวนาวชิรากร ผู้แทนคณะศิษยานุศิษย์ ถวายทองคำแท่ง น้ำหนักแท่งละ 12.5 กิโลกรัม จำนวน 2 แท่ง เพื่อพระราชทานแก่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นำเข้าคลังหลวงเพื่อเป็นการสืบต่อโครงการช่วยชาติขององค์หลวงตาพระมหาบัวฯ ต่อไป
![](/data/img/pr/2022/03/05/07.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/008.jpg)
ต่อจากนั้น ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะอัฐิธาตุพระธรรมวิสุทธิมงคลซึ่งประดิษฐานที่บุษบกภายในเจดีย์ โดยอยู่ที่ระดับความสูง 9 เมตร 60 เซนติเมตร โดยเจดีย์นี้ สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมศิลปะล้านช้าง มีความสูง 61 เมตร 58 เซนติเมตร
![](/data/img/pr/2022/03/05/09.jpg)
ส่วนที่ระดับความสูง 33.20 เมตร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธปฏิมา 4 องค์ ได้แก่ พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน พระพุทธรูปพิงค์โกลด์ และพระพุทธรูปแก้วสารพัดนึก (หินจุยเจีย) พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ และอัฐิธาตุหลวงตาพระมหาบัวฯ ในส่วนของศีรษะและฟัน รวมถึงเครื่องสูงอื่น ๆ ส่วนที่ชั้นความสูง 22 เมตร ได้ประดิษฐานอัฐิธาตุองค์หลวงตา และพุทธมงคลอื่น ๆ ส่วนยอดเจดีย์มีลักษณะเป็นฉัตร 5 ชั้น ยอดฉัตรบนสุดเป็นทองคำ น้ำหนัก 86.2 กิโลกรัม ฉัตรชั้นที่ 1 น้ำหนัก 99.4 กิโลกรัม เริ่มจากฐานฉัตรชั้นที่ 2 ถึงปลียอดแปดเหลี่ยมเคลือบทองคำด้วยวิธีเปียกทองโบราณ
![](/data/img/pr/2022/03/05/010.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/11.jpg)
ต่อจากนั้น เสด็จไปยังพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคลฯ ทรงเปิดโครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรม วิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)” อย่างเป็นทางการ
![](/data/img/pr/2022/03/05/12.jpg)
สำหรับโครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคลฯ จัดสร้างขึ้นบนพื้นที่รวม 181 ไร่ 3 งาน 17 ตารางวา โดยแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนอาคารและภูมิทัศน์ 38 ไร่ ประกอบด้วย 3 อาคาร คือ พิพิธภัณฑ์ วิหาร เจดีย์ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมศิลปะล้านช้าง ผสมผสานกับศิลปะยุคกรุงรัตนโกสินทร์ สะท้อนให้เห็นถึงการสืบทอดพระพุทธศาสนาในถิ่นอีสานที่ยังคงดำรงอยู่อย่างมั่นคง อีกทั้งมีแนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรมให้ทั้ง 3 อาคาร ตั้งเป็นแนวเดียวกับจิตกาธาน สถานที่ที่พระราชทานเพลิงศพสรีระสังขารหลวงตาพระมหาบัว เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2554 และเป็นแนวชี้ตรงไปถึงเมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย สื่อความหมายว่า ศาสนพิธี หรือ สังฆกรรม ณ สถานที่แห่งนี้มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน ทรงร่วมรับรู้ในพิธีนั้น รวมถึงพุทธศาสนิกชนที่เข้ามากราบสักการะอัฐิธาตุหลวงตาพระมหาบัวฯ ที่เจดีย์ ยังได้มีโอกาสกราบจิตกาธานหลวงตาฯ และพระบรมศาสดาไปในคราวเดียวกัน
![](/data/img/pr/2022/03/05/13.jpg)
ในส่วนพิพิธภัณฑ์ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการสื่อผสมผสานมัลติมีเดีย จำนวน 6 ห้อง ถ่ายทอดอัตชีวประวัติองค์หลวงตาพระมหาบัวฯ ตั้งแต่กำเนิดจนกระทั่งละสังขาร รวมถึงข้อวัตรปฏิบัติธรรรมเทศนา และคติธรรมคำสอนที่หลวงตาฯ มอบไว้เป็นมรดกธรรม และเป็นแบบอย่างอันดีงามแก่อนุชนรุ่นหลัง ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) รอบแรกเวลา 09.30 น. รอบสุดท้ายเวลา 14.30 น.
![](/data/img/pr/2022/03/05/14.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/15.jpg)
โอกาสนี้ ทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ บริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ซึ่งได้รับมอบจากวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้ และความเจริญรุ่งเรืองต่อไป
![](/data/img/pr/2022/03/05/016.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/17.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/18.jpg)
พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน พระเถระสายพระนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ชั้นผู้ใหญ่รูปหนึ่งของประเทศ ที่มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ให้ความเลื่อมใสในธรรมะคำสอน และการดำรงตนในสมณเพศ ด้วยเป็นผู้มีเมตตาบารมีเปี่ยมล้น กับการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก และเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ครั้งหนึ่งใช้ธรรมะช่วยเหลือวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศเมื่อ พ.ศ. 2540 ริ่เริ่มโครงการช่วยชาติ ภายใต้ชื่อ “โครงการผ้าป่าช่วยชาติ” โดยระดมทองคำและเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเข้าคลังหลวง เพื่อใช้เป็นทุนสำรองของประเทศในขณะนั้น เมื่อท่านละสังขารไป วันที่ 30 มกราคม 2554 บรรดาศิษยานุศิษย์ และผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งหลาย ไม่เพียงน้อมนำในอรรถธรรมคำสอนญาณสัมปันโน พระอริยสงฆ์ผู้ถึงพร้อมด้วยญาณอันบริสุทธิ์ ด้วยการสร้างอนุสรณ์สถาน เพื่อเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ และอัฐิธาตุขององค์หลวงตา รวมทั้งเป็นสถานที่เผยแผ่ธรรมเทศนา ปฏิปทา คติธรรมคำสอน และเก็บรักษาหนังสือธรรมมะ ตลอดจนเครื่องอัฐบริขารขององค์หลวงตา เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน ได้รำลึกถึงคุณูปการ ทั้งทางโลกและทางธรรม
![](/data/img/pr/2022/03/05/19.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/20.jpg)
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงสืบสานพระศาสนาด้วยพระศรัทธาที่มั่นคง โดยเฉพาะเมื่อได้ตามเสด็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังวัดป่าบ้านตาดในหลายโอกาส ทรงมีความเลื่อมใสศรัทธาในหลักคำสอนของหลวงตาพระมหาบัวฯ เป็นอย่างสูง ทรงปวารณาพระองค์เป็นศิษย์และบุตรบุญธรรม อีกทั้งทรงยึดมั่นพระธรรมคำสอนของหลวงตา เป็นหลักสำคัญในการทรงงานเพื่อปวงชนชาวไทยตลอดมา ทั้งนี้ ทรงพระกรุณารับเป็นประธานโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ
โดยโปรดให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงเป็นประธานคณะผู้ออกแบบก่อสร้างการดำเนินงาน ทั้งด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม ตลอดจนงานมัณฑนศิลป์และจัดระเบียบภูมิทัศน์โดยรอบ
![](/data/img/pr/2022/03/05/21.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/22.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/23.jpg)
![](/data/img/pr/2022/03/05/24.jpg)
การดำเนินงานโครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคลฯ มีความก้าวหน้ามาเป็นลำดับ โดยความร่วมมือของคณะทำงานฝ่ายต่าง ๆ จากทุกภาคส่วน อาทิ จังหวัดอุดรธานี วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และคณะศิษยานุศิษย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ทั้งบรรพชิตและฆราวาส มีบทบาทในการดำเนินงานตามขอบเขตหน้าที่ จนบังเกิดเป็นผลสำเร็จเรียบร้อยเป็นอย่างดี เพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานสำคัญแด่หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ผู้เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติธรรม และทำความดีเพื่อพระพุทธศาสนา ประเทศชาติ และในฐานะที่เป็น “ถูปารหบุคคล” หรือบุคคลผู้ควรแก่การสร้างสถูป หรือ เจดีย์บรรจุอัฐิธาตุไว้สักการะบูชาคุณงามความดีของ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ให้คงอยู่สืบไปตราบนานเท่านาน
ฝ่ายบริหารและประชาสัมพันธ์ สำนักองค์ประธาน
สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
5 มีนาคม 2565
ฝ่ายบริหารและประชาสัมพันธ์
สำนักองค์ประธาน
สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
5 มีนาคม 2565