เวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 9 a.m. - 5 p.m.

02 553 8555

02 553 8572

การแสดงผล

พระกรณียกิจ

เพื่อประเทศชาติ และราษฎร

       ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  ดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าฟ้าของแผ่นดิน พระกรณียกิจของพระองค์ คือ “รับใช้ประเทศชาติ” โดยการ “ดูแลอาณาประชาราษฎร์” ให้มีความสุข อยู่ดีกินดี และร่วมพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ ทรงได้รับการถวายพระสมัญญานาม “เจ้าฟ้านักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ประจักษ์พยานของพระอัจฉริยภาพ เนื่องด้วยทรงสำเร็จการศึกษาระดับสูงสุดทางวิทยาศาสตร์ และทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผู้ทรงมีผลงานการศึกษาวิจัยเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ

 

ตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเป็นขัตติยนารีผู้ปรีชาสามารถและมีพระจริยวัตรที่งดงาม เปี่ยมล้นไปด้วยพระเมตตา ทรงอุทิศพระวรกายในการปฏิบัติพระกรณียกิจนานัปการด้วยพระวิริยอุตสาหะ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พสกนิกรชาวไทยและผืนแผ่นดินไทย  จนเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนทั้งในและต่างประเทศ

 

ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  ทรงตั้งพระทัยอุทิศพระชนม์ชีพเพื่อจุดมุ่งหมายของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรทั่วสารทิศ โดยการพัฒนางานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนำมาใช้ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

 

เป็นที่เด่นชัดว่า การทรงงานเป็นเวลาหลายทศวรรษของพระองค์ กอปรด้วยพระปรีชาสามารถ

พระวิสัยทัศน์กว้างไกล และพระวิริยะบากบั่น ซึ่งประกอบกันเป็นพระปณิธานที่มั่นคง และพระกรณียกิจนานัปการที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ 

       ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  ดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าฟ้าของแผ่นดิน พระกรณียกิจของพระองค์ คือ “รับใช้ประเทศชาติ” โดยการ “ดูแลอาณาประชาราษฎร์” ให้มีความสุข อยู่ดีกินดี และร่วมพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ ทรงได้รับการถวายพระสมัญญานาม “เจ้าฟ้านักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ประจักษ์พยานของพระอัจฉริยภาพ เนื่องด้วยทรงสำเร็จการศึกษาระดับสูงสุดทางวิทยาศาสตร์ และทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผู้ทรงมีผลงานการศึกษาวิจัยเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ

 

ตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเป็นขัตติยนารีผู้ปรีชาสามารถและมีพระจริยวัตรที่งดงาม เปี่ยมล้นไปด้วยพระเมตตา ทรงอุทิศพระวรกายในการปฏิบัติพระกรณียกิจนานัปการด้วยพระวิริยอุตสาหะ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พสกนิกรชาวไทยและผืนแผ่นดินไทย  จนเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนทั้งในและต่างประเทศ

 

ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  ทรงตั้งพระทัยอุทิศพระชนม์ชีพเพื่อจุดมุ่งหมายของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรทั่วสารทิศ โดยการพัฒนางานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนำมาใช้ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

 

เป็นที่เด่นชัดว่า การทรงงานเป็นเวลาหลายทศวรรษของพระองค์ กอปรด้วยพระปรีชาสามารถ พระวิสัยทัศน์กว้างไกล และพระวิริยะบากบั่น ซึ่งประกอบกันเป็นพระปณิธานที่มั่นคง และพระกรณียกิจนานัปการที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ 

ด้านวิทยาศาสตร์

ทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้เปี่ยมล้นด้วยพระอัจฉริยภาพและผลงานโดดเด่นในหลายสาขา โดยเฉพาะด้านวิชาเคมี ทรงอุทิศพระองค์ศึกษาวิจัยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาประเทศชาติและประชาชน “เจ้าฟ้านักวิทยาศาสตร์” ของไทย ทรงได้รับการยกย่องจากนานาประเทศ ในฐานะที่ทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก และทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเทิดพระเกียรติระดับนานาชาติเป็นจำนวนมาก

ด้วยพระปรีชาสามารถและพระวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ทรงก่อตั้งกองทุนจุฬาภรณ์ขึ้น ซึ่งต่อมาได้จดทะเบียนเป็นมูลนิธิจุฬาภรณ์ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา การวิจัย การดำเนินงานทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ การสาธารณสุข โดยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ราษฎรทั่วไปมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกทั้งยังทรงก่อตั้งสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ 

โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม การแพทย์และสาธารณสุข
และนำองค์ความรู้ต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยทั่วไป และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย

ด้านการแพทย์

โปรดให้สร้างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อให้บริการรักษาโรคมะเร็งแบบครบวงจร เน้นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ มีงานวิจัยรองรับ 

และเน้นคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยด้วย เพื่อให้ผู้ป่วยมีความทุกข์ทรมานน้อยลง และมีความหวังในชีวิต โดยเฉพาะผู้ป่วยยากไร้จำนวนมากที่ทรงได้พบเห็นทั่วประเทศ ในปัจจุบันมีการขยายขอบข่ายบริการรักษาของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยการสร้างส่วนขยายของ

โรงพยาบาล หรือ “ศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์” โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง เพื่อให้บริการรักษาโรคทั่วไปด้วย นอกเหนือจากโรคมะเร็ง

ด้านการสาธารณสุข

ทรงดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) และได้เสด็จร่วมกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มูลนิธิ พอ.สว. เพื่อให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย รวมทั้งยังมีพระเมตตาทรงรับผู้ป่วยที่ยากไร้ 

ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลไว้เป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์ด้วย นอกจากนั้น พระเมตตาของพระองค์ได้แผ่กว้างไกลไปถึงบรรดาสัตว์ป่วยอนาถาอีกด้วย โดยทรงรับเป็นประธานกรรมการขับเคลื่อนการดำเนิน “โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากพิษสุนัขบ้า” ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน 

วรขัตติยราชนารี ใน พ.ศ. 2559 และได้เสด็จไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ และทรงร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของโครงการฯ 

ตลอดมา แสดงให้เห็นถึงพระเมตตาธรรมที่พระราชทานไปอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

ด้านการศึกษา

ทรงพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์ของประเทศ โดยทรงก่อตั้ง “สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์” ซึ่งเปิดการเรียนการสอนระดับปริญญาโทและเอก
ในสาขาที่ประเทศขาดแคลน คือ วิทยาศาสตร์ชีวภาพประยุกต์ เคมีชีวภาพ และพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตศึกษา
จุฬาภรณ์
เป็นสถานศึกษาหลักสูตรนานาชาติที่มุ่งผลิตผู้นำทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาประเทศทั้งประเทศไทย
และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค

ด้านสังคม – สิ่งแวดล้อม

พระราชทานการสงเคราะห์ช่วยเหลือราษฎรในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ในระยะเร่งด่วน เมื่อเกิดภัยธรรมชาติในประเทศ
พระราชทานถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ประสบภัยอย่างทั่วถึง รวมทั้งบริการด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของหน่วยแพทย์พระราชทาน
และหน่วยสัตวแพทย์ อีกทั้งมีพระเมตตาเสด็จไปเยี่ยมราษฎรในเขตภัยพิบัติ เพื่อพระราชทานขวัญและกำลังใจ และความช่วยเหลือจำเป็นอื่น ๆ เช่น ทุนทรัพย์ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่อเนื่อง ทุนทรัพย์ที่เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบหนัก และทุนการศึกษาของบุตรหลาน เพื่อมิให้การเรียนต้องหยุดชะงัก พระกรุณาธิคุณได้ช่วยให้ผู้เคราะห์ร้ายทั่วประเทศ 
มีพลังต่อสู้กับเคราะห์ภัยและดำเนินชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็ง


ด้านความช่วยเหลือในระยะยาว มีพระดำริให้เป็นการดำเนินงานของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โดยจัดทำโครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร ภายใต้โครงการทับทิมสยาม จำนวน 8 โครงการ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และโครงการจุฬาภรณ์พัฒนา จำนวน 12 โครงการ ซึ่งดำเนินการอยู่ในหลายจังหวัดทางภาคใต้ รวมถึงโครงการในจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยสึนามิ เมื่อปี 2547
ได้แก่ โครงการชุมชนบ้านน้ำใสในจังหวัดพังงา และโครงการอุทยานใต้ทะเล จุฬาภรณ์ 36 เพื่ออนุรักษ์สภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
ทางทะเลบริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ และหมู่เกาะสิมิลัน โครงการเหล่านี้ได้ช่วยฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและส่งเสริมอาชีพให้ประชากรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนตราบถึงทุกวันนี้

ด้านศิลปวัฒนธรรม

ทรงเป็นเจ้าฟ้านักวิทยาศาสตร์ แต่ทรงมีพระอัจฉริยภาพอย่างน่าชื่นชมยิ่งด้านศิลปะและดนตรีด้วย ทรงแสดงดนตรี ทรงขับร้องเพลง 

ทรงนิพนธ์เพลง ทรงวาดภาพ ทรงออกแบบอัญมณีและเครื่องแต่งกายสตรี และที่น่าชื่นชมเป็นทวีคูณ คือ ทรงใช้พระอัจฉริยภาพให้เป็นคุณูปการแก่ประชาชน ในการหาทุนทรัพย์สนับสนุนพระกรณียกิจการกุศล เพื่อให้ความช่วยเหลือและการสงเคราะห์ต่าง ๆ กระจายไปยังผู้ยากไร้
และโดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งให้ได้มากที่สุด ผลงานสร้างสรรค์ด้านดนตรีและศิลปะที่ทรงพระกรุณาพระราชทานมาให้ เกิดจากการเสียสละพระวรกายโดยแท้ ผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือโดยตรงจากทุนทรัพย์เหล่านี้ และสาธุชนทั่วไป ประจักษ์ในน้ำพระทัยเมตตา และสำนึกในพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

ด้านศาสนา

เป็นประจักษ์แก่ชาวไทยว่าทรงปฏิบัติพระองค์ตามแนวทางแห่งพระพุทธศาสนา ด้วยทรงศีลทรงธรรม ทรงศึกษาธรรมะ ทรงปฏิบัติธรรม
และทรงอุปถัมภ์ทำนุบำรุงพระศาสนา ธรรมะประการสำคัญที่ทรงแสดงอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน คือ ความช่วยเหลือในทุกรูปแบบ

ที่พระราชทานต่อปวงชนชาวไทยอย่างมิไม่มีที่สิ้นสุด มิเพียงมีพระจริยวัตรเพียบพร้อมแห่งขัตติยนารีแล้ว ยังทรงมีน้ำพระทัยอันประเสริฐที่งดงามทั้งกายและใจ

ด้านต่างประเทศ

พระจริยวัตรที่งดงามสง่า และพระปรีชาสามารถทั้งด้านวิทยาศาสตร์และศิลปะดนตรี ทำให้ทรงเป็นเสมือนทูตสันถวไมตรีที่ดีเยี่ยมของประเทศไทย
ในทุกโอกาสที่เสด็จไปยังต่างประเทศ รวมทั้งเมื่อครั้งทรงเป็นผู้แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
และทรงเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกที่สาธารณรัฐบราซิล 
และสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และเมื่อทรงแสดงกู่เจิง
เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนถึง 6 ครั้งแล้ว


ในการพัฒนางานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการแพทย์ของประเทศไทย ในส่วนที่เป็นความร่วมมือจากนานาชาติ และเป็นสาเหตุให้ต้องเสด็จเยือนสถาบันและองค์กรทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ของประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำความรู้กลับมาใช้ประโยชน์ในบ้านเมือง เป็นที่เด่นชัดว่า ทรงเป็นทูตสันถวไมตรี
ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะประเทศไทยได้รับประโยชน์มากมายในรูปของการถวายสิ่งที่เป็นความก้าวหน้าทางวิทยาการของโลก ตลอดจนส่งบุคลากรมาให้ความรู้และความช่วยเหลือแก่หน่วยงานในพระดำริทั้งหลายอย่างสม่ำเสมอจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด คือ ประชาชนชาวไทยนั่นเอง

แจ้งไฟล์เสีย
File Broken

profile

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ สามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า .

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า